วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555

หมี่กะทิอีสาน




ส่วนประกอบ

เส้นก๋วยเตี๋ยวแบบแห้งเส้นเล็ก(เส้นจันทร์) ๓๐๐ กรัม แช่น้ำให้นุ่ม
พริกแกงเผ็ด ๑๐๐ กรัม
เต้าหู้ขาวชนิดแข็ง ๒๕๐
หมูสับ ๓๐๐ กรัม
หอมแดงสับ ๑/๒ ถ้วยตวง
ถั่วลิสงคั่วบดหยาบๆ ๑/๔ ถ้วยตวง
ไข่ไก่ ๒ ฟอง
กะทิ ๑ กระป๋อง
น้ำมะขามเปียก ๑/๒ ถ้วยตวง
น้ำตาลปึก ๒ ก้อน
เต้าเจี้ยว ๑/๓ ถ้วยตวง
เกลือสำหรับปรุงรส
น้ำเปล่า ๓ ๑/๒ ถ้วยตวง (ถ้าข้นไปเพิ่มอีกได้เล็กน้อย)
พริกแห้งทอด ๑/๒ ถ้วย
พริกป่น น้ำตาลทราย มะนาว สำหรับปรุงรส
ผักแกล้ม ได้แก่ ใบกุยช่าย ถั่วงอก หัวปลี ใบบัวบก หรือผักอื่นๆตามชอบ

เต้าหู้ที่แม่ปูใช้ หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆไว้นะคะ

ถั่วลิสงคั่ว จริงๆแม่ปูใช้อบในเตาอบเอาค่ะ
เวลาซื้อถั่วลิสงมาคั่ว ให้ซื้อชนิดที่ยังไม่ลอกเปลือกสีน้ำตาลที่ติดผิวถั่วนะคะ
กลิ่นจะได้หอมอร่อย เวลาในการอบแม่ปูเคยบอกไว้แล้ว
แต่บอกอีกก็ได้ คือใช้ไฟ ๔๐๐ องศาฟาเรนไฮต์
เมื่อก่อนเคยบอก ๓๕๐ วันนี้เปลี่ยนใจค่ะ แหะๆ อบให้เหลืองสวย
มีกลิ่นหอม ร่อนเปลือกออก บดหยาบๆเอาใส่ขวดปิดฝาให้สนิท
ถ้าใช้ไม่หมด เก็บไว้ในตู้เย็น ใช้ได้นานค่ะ

พริกทอด

บางวันแม่ปูก็มีหัวปลีมาแกล้มด้วยค่ะ
แต่หัวปลีหัวนี้แกะออกมาแล้วเหลือที่กินได้นิดเดียวเลยไม่อยากถ่ายรูปไว้

ผักอะไรก็ขาดได้ แต่ห้ามขาดใบกุยช่ายนะคะ
หั่นเป็นท่อนๆขนาด ๑ ๑/๒ นิ้ว ไว้โรยกับเส้นก๋วยเตี๋ยว

ดูหน้าตาเครื่องปรุงไปแล้ว ก็มาลงมือปฏิบัติการได้แล้วค่ะ
 

 
วิธีทำ
 
          ๑.แช่เส้นก๋วยเตี๋ยวในน้ำอุ่นให้นิ่ม แล้วลวกด้วยน้ำเดือดจัดโดยเอาเส้นก๋วยเตี๋ยวใส่ลงในน้ำเดือดจัด คนเล็กน้อยแล้วให้รีบเทเส้นก๋วยเตี๋ยวใส่กระชอนเทน้ำร้อนทิ้งไปแล้วรีบล้าง ด้วยน้ำเย็น(น้ำก๊อก)เส้นจะได้ไม่เละ สะบัดน้ำทิ้งให้หมดคลุกเส้นด้วยน้ำมันพืช เส้นจะได้ไม่ติดกัน โรยด้วยใบกุยช่ายที่หั่นพักไว้ก่อนเวลารับประทานหมี่กะทิอีสาน เส้นก๋วยเตี๋ยวจะต้องแข็งนิดๆถึงจะอร่อยนะคะเราจะไม่ลวกเส้นเปียกๆใส่ชาม ทันที ตามด้วยน้ำแกงเหมือนก๋วยเตี๋ยวทั่วไปแต่จะลวกเส้นไว้ก่อนล่วงหน้าก่อนทำน้ำ กะทิเลยค่ะ เส้นจะแห้งๆแข็งนิดๆ

แช่เส้นให้นิ่มแล้ว

เส้นที่ลวกและคลุกเคล้าด้วยน้ำมันพืช พักไว้ก่อนค่ะตอนนี้เราไปทำน้ำกะทิกัน

          ๒.ตั้งกระทะบนเตา ใส่น้ำมันลงไปประมาณ ๑/๔ ถ้วยตวงใส่พริกแกงลงไปผัดให้มีกลิ่นหอม สีสวย

          ๓.แล้วค่อยๆใส่หัวกะทิกระป๋องลงไปสักครึ่งนึงคนส่วนผสมให้เข้ากันเคี่ยวไปอีกนิดให้กะทิแตกมันเป็นสีสวย

          ๔.ใส่กะทิเพิ่มลง ไปอีกพอให้กะทิในกระทะคลายร้อนแล้วจึงใส่หมูบดลงไปหมูจะได้ไม่จับกันเป็น ก้อนค่ะแล้วก็รีบๆคนๆผัดๆยีๆให้หมูกระจายไม่เป็นก้อน

          ๕.ใส่เต้าหู้ลงไป  ตามด้วยหอมแดงสับคนส่วนผสมให้เข้ากันดี

          ใส่หางกะทิที่เหลือลงไปให้หมดเลยนะคะ รูปไหนเป็นรูปไหนชักงง อิอิ..

          ตามด้วยน้ำเปล่าใส่ลงไปได้เลย ถ้วยตวงใช้ตวงกะทิก่อนหน้าแล้วค่ะน้ำเลยสีขุ่นๆ

          ๖.จากนั้นก็ปรุง เครื่องปรุงรสลงไป เริ่มด้วย เต้าเจี้ยว น้ำตาลมะพร้าวหรือน้ำตาลปึก สองก้อนนะคะคนให้น้ำตาลละลายตามด้วยน้ำมะขามเปียกหน้าแกงเป็นสีแดงมันย่อง น่ารับประทาน

          ๗.ปล่อยให้น้ำแกงเดือดสักพัก ต่อยไข่ใส่ชามไว้พอน้ำแกงเดือดก็ค่อยๆเทไข่ลงเป็นสายนะคะ จะได้ไข่เป็นเส้นสวยๆน่ากิน

          ปล่อยให้น้ำแกงเดือดไข่สุกก็ลดไฟลง หรือปิดไฟไปเลยก็ได้ค่ะ

          สีแดงสวย เกือบเสร็จแล้วค่ะ

          สุดท้าย ปิดไฟในเตา แล้วใส่ถั่วลิสงคั่วป่นลงไปคนส่วนผสมให้เข้ากันชิมรสให้ได้รสหวาน เปรี้ยว เค็ม จะเห็นว่าแม่ปูไม่ได้ใส่น้าปลาเลยนะคะเต้าเจี้ยวก็เค็มอยู่แล้ว ถ้าจืดไปให้ใส่เกลือปรุงรสเอานะคะหมี่กะทิอีสานใส่น้ำปลาแล้วกลิ่นจะไม่ค่อย หอมค่ะ

เสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ พร้อมรับประทานได้ค่ะ




ปูขาเก เซมารู ที่มาจาก : Bloggang.com